ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ช่วงชิงสัดส่วนการตลาดได้ 25 % จากมูลค่าตลาดรวม 2,400 ล้านบาท

ชั่วเวลาเพียง 4 ปีที่ บริษัท กรีนแลม เอเชีย แปซิฟิค (ประเทศไทย) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ก้าวเข้ามาทำตลาดวัสดุปิดผิวประเภท HIGH PRESSURE LAMINATES ด้วยการนำเข้ามาจำหน่ายในไทย ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ช่วงชิงสัดส่วนการตลาดได้ 25 % จากมูลค่าตลาดรวม 2,400 ล้านบาท แม้ปีที่แล้วจะพลาดเป้าจากที่วาดหวังไว้ว่าจะเติบโตได้ถึง 40 % เพราะเจอปัญหาการเมืองซัดกระหน่ำจนธุรกิจเซซวนกันไปเป็นทิวแถว แต่ก็ยังเติบโตได้ถึง 15 %

 

ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของ ดิษฐกาน ทิพวัลย์ ประธานบริษัท กรีนแลม เอเชีย แปซิฟิค(ประเทศไทย) จำกัด ที่บอกว่า “เกิดจากคุณสมบัติของสินค้าทีเหนือกว่า”  โดยพัฒนาสินค้าเป็นเกรดไฮจีนิค ลามิเนต มี Safeguard Plus Anti-Bacterial สามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคหวัด โรคผิวหนัง และโรคภูมิแพ้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังทนต่อการขูดขีด ทนเคมีได้ถึง 24 ชม. และยังมีให้เลือกมากกว่า 1,000 ลาย

 

บวกกับการเข้าถึงลูกค้าด้วย Team Sale ที่แข็งแกร่ง และทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 40% ซึ่งดูจะสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่ด้วยเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก และโครงการเหล่านั้นก็กำลังก่อสร้างจะแล้วเสร็จ บวกกับโครงการเก่าที่ต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ ทำให้ความต้องการวัสดุเพื่อการตกแต่งภายใน และเฟอร์นิเจอร์มีเป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับตัว กรีนแลม ที่เป็นวัสดุปิดผิวที่ใช้ได้ทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่ง พื้น ผนังในคอนโดมิเนียม จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะคว้ายอดขาย 650 ล้านบาทได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งเท่ากับบริษัทจะมีการเติบโตขึ้น 25-30 %เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งทำได้ 500 ล้านบาท

 

การสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีการนำมาใช้ในการขยายฐานการตลาด และการเพิ่มยอดขาย โดยมีการตั้งบริษัท  นิวไมก้า (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อนำเข้าวัสุดปิดผิวประเภท ลามิเนต มาทำตลาดภายใต้แบรนด์ “นิวไมก้า” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้า  ซึ่ง ดิษฐกาน เห็นว่า มีสินค้า 2 แบรนด์ ย่อมดีกว่าแบรนด์เดียว ถ้าไม่ชอบแบรนด์นี้ก็ยังมีอีกแบรนด์ให้เลือก ตลาดก็มีโอกาสขยายได้กว้างขึ้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าของกรีนแลมขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 70% อีก 30% เป็นลูกค้าโครงการในจำนวนนี้เป็นคอนโดมิเนียมถึง 70-80%  เนื่องจากแผ่นลามิเนตของกรีน แลมนั้น นอกจากจะมีสีสันที่สวยงาม มีลวดลายให้เลือกมากมายตามรสนิยมของผู้ใช้แล้ว ราคาโดยเฉลี่ยยังอยู่ที่ 200 บาทต่อ ตร.ม. เท่านั้น

 คุณดิษฐกานขยายฐานตลาดเพิ่มโดยการนำเข้าแผ่นอะคริลิก Mirror Gloss ภายใต้แบรนด์ PORT09 จากทางยุโรป เข้ามาเสริมทัพ ที่เลือกเพราะเป็นแผ่นอะคริลิกได้คุณภาพดีที่สุด สินค้าตัวนี้จับตลาดระดับไฮเอนด์ที่เป็นโครงการและผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ด้วยราคา 3,000 บาทต่อตร.ม.

พร้อมกันนี้จะนำเข้าสเปรย์เคลือบเงา VUPLEX จากประเทศออสเตรเลีย ที่มีคุณสมบัติช่วยเคลือบแผ่นอะคริลิก และวัสดุอื่นๆ เช่น กระจกให้เกิดความเงางาม และทนทานต่อการขีดข่วน ในเดือนเมษายน 2557 นี้ โดยเจาะกลุ่มลูกค้า END USER 

 

นอกจากนี้กรีนแลมฯซึ่งได้รับสิทธิ์ดูแลสินค้าข้างต้นในตลาดเอเชียทั้งหมด ยังขยายออกไปยังประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพื่อรองรับโครงการใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นและการเปิดเสรีอาเซียน ซึ่งได้เริ่มส่งออกสินค้าและศึกษาช่องทางการขนส่งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ไปบ้างแล้ว โดยเปิดสำนักงานสาขาแล้ว 2 แห่ง ที่เมืองย่างกุ้ง  และเนปิดอ  ประเทศเมียนมาร์ ส่วนกัมพูชามีผู้ประกอบการติดต่อขอเป็นเป็นตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากและแต่งตั้งไปแล้ว 2 ราย คาดว่าจะทำยอดขายจากการส่งออกได้ 8% ของยอดขายทั้งหมด  ซึ่งจากแผนงานที่วางไว้ ดิษฐกาน เชื่อมั่นว่าจะทำให้ กรีนแลมช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 30% ได้ในปีนี้อย่างแน่นอน

ที่มา.www.propertychannelnews.com